issuu
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฉุกเฉิน
จากชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า คือยาคุมที่ใช้กรณีมีเพศสัมพันธ์แบบฉุกเฉิน โดยไม่ได้วางแผนการคุมกำเนิดไว้ล่วงหน้า ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดนี้มีส่วนประกอบหลักคือฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเพิ่มความหนาของเยื่อมูกปากมดลูกทำให้ช่องคลอดมีเมือกข้นเหนียวไม่เหมาะแก่การเดินทางผ่านของอสุจิหรือส่งผลต่อการย้ายตัวอสุจิ เพื่อป้องกันการปฏิสนธิของไข่และทำให้ผนังมดลูกไม่เหมาะแก่การฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิ
ชนิดของยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฉุกเฉิน
- ชนิด 2 เม็ด ใน 1 กล่องละบรรจุยา 1 แผง โดยแต่ละแผงมียาเม็ดคุมฉุกเฉิน 2 เม็ด แต่ละเม็ดประกอบด้วยตัวยาที่เป็นฮอร์โมนลีโวนอร์เจสตรีล (levonorgestrel) เม็ดละ 750 ไมโครกรัม การรับประทานยาที่ถูกต้องคือ รับประทานยาเม็ดแรกให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หรือช้ากว่าได้แต่ไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง หลังจากนั้นรับประทานยาเม็ดที่สองหลังจากรับประทานยาเม็ดแรกไม่เกิน 12 ชั่วโมง หรือสามารถรับประทานยาที่เดียว 2 เม็ดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมง (รับประทานยาเร็วได้ยิ่งดี) หากมีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยาแต่ละเม็ด ต้องรับประทานยาใหม่
- ชนิด 1 เม็ด ใน 1 กล่องละบรรจุยา 1 แผง โดยแต่ละแผงมียาเม็ดคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด แต่ละเม็ดประกอบด้วยตัวยาที่เป็นฮอร์โมนลีโวนอร์เจสตรีล (levonorgestrel) เม็ดละ 1500 ไมโครกรัม การรับประทานยาที่ถูกต้องคือ รับประทานยาเม็ดให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หรือช้ากว่าได้แต่ไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง หากมีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยาแต่ละเม็ด ต้องรับประทานยาใหม่
ข้อแนะนำ/ข้อควรระวังในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน
การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฉุกเฉิน สามารถป้องกันภาวะตั้งครรภ์ได้เพียง 80-90% เท่านั้น ฉะนั้นหากต้องการรับประทานยาให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดคือการรับประทานยาให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ เพราะยิ่งรับประทานยาช้าเปอร์เซ็นการได้ผลก็จะลดลงไปเรื่อยๆ เช่น หากรับประทานยาหลังมีเพศสัมพันธ์ภายใน 12 ชม.จะได้ประสิทธิภาพ 80-90% รับประทานยาหลังมีเพศสัมพันธ์ภายใน 24 ชม.จะได้ประสิทธิภาพ 65% รับประทานยาหลังมีเพศสัมพันธ์ภายใน 72 ชม.จะได้ประสิทธิภาพ 42% เป็นต้น โดยปกติหากรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฉุกเฉินแล้ว 2-4 สัปดาห์ประจำเดือนไม่มาแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์
ไม่แนะนำให้รับประทานยาเกิน 4 เม็ด หรือ 2กล่อง ต่อเดือน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ และอาจส่งผลต่อการเป็นรอบเดือนที่ผิดปกติ เช่นมาเดือนละหลายรอบต่อเดือน เป็นต้น
ดังนั้นไม่ควรทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินพร่ำเพรื่อ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและเด็กในครรภ์ หากมีข้อสงสัยปรึกษาแพทย์และเภสัชกรเพื่อได้รับการดูแลแนะนำทีเ่หมาะสมกับท่าน จะดีที่สุดค่ะ
เรียบเรียงโดย
ภก.กุญชร เหรียญทอง
26 พ.ย. 61